วิธีเปลี่ยนหนี้บัตรกดเงินสดให้เป็นเงินสำรองฉุกเฉินปลอดหนี้

13 Jun 2018
467 ครั้ง


เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า “เงินสำรองฉุกเฉิน” กันมาบ้างแล้ว ซึ่งก็คือ เงินเก็บที่ถูกออมเอาไว้เพื่อให้เรานำมาใช้จ่ายได้ในวันที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็น ตกงาน เจ็บป่วย รถเสีย หลังคาบ้านรั่วหรืออุบัติเหตุต่าง ๆ ซึ่งเงินฉุกเฉินอาจจะเพียงพอกับการใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินบ้าง หรือไม่พอบ้าง ทำให้หลายครั้งบัตรกดเงินสดต่าง ๆ จึงต้องก้าวเข้ามาเป็นฮีโร่ที่จะช่วยให้คุณมีเงินสดเพียงพอกับสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างทันท่วงที แต่จะเปลี่ยนหนี้จากบัตรเงินสดให้เป็นเงินเพื่อใช้จ่ายยามฉุกเฉิน

อย่างไร ให้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงเว่อร์ จนกลายเป็นเบี้ยหัวแตก และควรต้องมีเงินสำรองฉุกเฉินเก็บสะสมไว้เท่าไหร่ถึงจะอยู่ได้แบบไม่ต้องสร้างหนี้ วันนี้ ยูเมะพลัส มีคำตอบดี ๆ มาให้คุณ

เงินสำรองฉุกเฉินควรมีเท่าไหร่?

ตามหลักการแล้วคุณควรมี “เงินสำรองฉุกเฉิน 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน” เช่น หากคุณมีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน และมีค่าใช้จ่ายรายเดือนๆ ละ 10,000 บาท ก็ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอยู่ที่ 30,000 – 60,000 บาท ซึ่งเงินสำรองฉุกเฉินนี้มีไว้เผื่อเวลาเกิดเหตุที่ต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วนจะได้ถอนเงินส่วนนี้ออกมาใช้จ่าย โดยไม่ต้องกู้ยืมเงินสดจากผู้อื่นให้ต้องลำบากใจหรือใช้บริการบัตรกดเงินสดต่าง ๆ ให้ต้องเสียดอกเบี้ย

สมัครบัตรกดเงินสด ยูเมะพลัส | พิเศษ รับดอกเบี้ย O% นาน 30 วัน‎
สมัครบัตรกดเงินสด เงินเดือนขั้นต่ำเพียง 7,000฿ สมัครง่าย ๆ ผ่านทางออนไลน์ได้ทันที
https://www.umayplus.com/cashcard/

แต่หลักการคิดเหล่านี้ก็เป็นเพียงแนวทางเท่านั้น การนำมาใช้จริงจะต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความจำเป็นของแต่ละคน เช่น มนุษย์เงินเดือนอาจจะตกงานกะทันหัน ก็ควรเตรียมเงินสำรองฉุกเฉินไว้ที่ 3-6 เดือนเพื่อรอเวลาหางานใหม่ หรือคนทำงานฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ไม่แน่นอน ควรกันเงินสำรองฉุกเฉินไว้ในช่วงเหตุการณ์ที่อาจโชคร้ายที่สุดในชีวิต เช่น ไม่มีใครจ้างทำงาน 1 ปี คุณก็ยังมีเงินฉุกเฉินไว้ใช้จ่ายในช่วงเวลานั้นได้นั่นเอง

วิธีหาเงินด่วน เมื่อเงินฉุกเฉินที่มีไม่เพียงพอ

1. ยืมเงินสดจากคนใกล้ชิด

โดยปกติแล้วเงินฉุกเฉินที่ได้มาจากการหยิบยืมเงินจากคนใกล้ตัวจะมีต้นทุนต่ำมากเพราะไม่ต้องเสียดอกเบี้ยหรือถ้าคิดดอกเบี้ยก็จะต่ำมาก แต่ก็ต้องใช้ความกล้าเป็นอย่างมากที่จะเอ่ยปากขอยืม และยังต้องพร้อมที่จะยอมรับคำปฏิเสธ หากอีกฝ่ายไม่สะดวกใจที่จะให้หยิบยืมเงินสดอีกด้วย อย่างที่เคยได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ว่า “หากรักกันจริงจะอย่ายืมเงินกัน” เพราะส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่ได้เงินคืน จะทวงก็ลำบากใจ จนสุดท้ายก็ต้องจบที่การสูญเสียมิตรภาพดี ๆ ไปอย่างที่มีให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ

ดังนั้น หากใครเลือกหาเงินฉุกเฉินด้วยการยืมเงินคนใกล้ชิดตั้งแต่พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท รุ่นพี่ รุ่นน้อง ฯลฯ ก็อาจจะต้องยืมแล้วรักษาเครดิตให้ตัวเองจากการ “ยืมแล้วคืน” เพราะมันไม่คุ้มค่าเลยที่คุณจะต้องเสียความสัมพันธ์ดีๆ ที่มีมานานไปด้วยเรื่องการหยิบยืมเงินเพียงไม่กี่บาท

บัตรกดเงินสด สมัครออนไลน์ง่าย ๆ | จ่ายคืนสบาย เลือกได้อย่างอิสระ‎
บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส สมัครง่าย ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน รับดอกเบี้ย O% นาน 30 วัน
http://www.umayplus.com/CashCard

2. โรงรับจำนำ

คงคุ้นหูกันดีกับข่าวผู้ปกครองที่ต้องการเงินด่วนทั้งหลาย มักเอาของในบ้านไปเข้าโรงรับจำนำในช่วยใกล้เปิดเทอม เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดใช้จ่ายเป็นค่าอุปกรณ์การศึกษาให้กับลูก แล้วเมื่อผ่านพ้นช่วงเร่งรีบใช้เงินด่วนไปแล้ว จึงค่อยเก็บสะสมเงินเพื่อนำไปไถ่ของคืนจากโรงรับจำนำ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีทั้งโรงรับจำนำของรัฐบาลและเอกชน สะดวกสบาย มีให้เลือกใช้บริการได้ตามความพอใจในอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำและจะมีเงื่อนไขแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ข้อจำกัดก็คือ หากคุณไม่ได้มีทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากพอ เช่น สร้อยคอทองคำ นาฬิกา แหวนเพชร การจะได้เงินด่วนยอดเงินสูง ๆ ก็คงจะเป็นไปได้ยาก แถมคุณยังต้องยุ่งยากในการมาคอยส่งค่างวดดอกเบี้ย เพื่อรักษาสถานะของสิ่งที่จำนำไว้ ไม่ให้หลุดเป็นของโรงจำนำอีกด้วย

3. บัตรกดเงินสด

เป็นทางเลือกยอดฮิตอีกหนึ่งทางสำหรับคนที่ไม่สะดวกใจจะไปหยิบยืมเงินจากคนใกล้ตัว หรือไม่สะดวกจะนำทรัพย์สินที่มีเข้าโรงรับจำนำ ซึ่งการสมัครบัตรกดเงินสดก็แสนจะง่าย สะดวกสบาย ยิ่งคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ประจำ ไม่ต้องมีคนค้ำก็สามารถสมัครเพื่อทำบัตรกดเงินสดได้แล้ว แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า บัตรกดเงินสดจะมีดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง (28% ต่อปี) และเริ่มคิดดอกเบี้ยทันทีตั้งแต่วันแรกที่กดเงินสดออกมาใช้จ่าย ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการใช้บัตรกดเงินสดก็คือ รีบชำระคืนโดยเร็วที่สุดโดยไม่ต้องรอบิลเรียกเก็บเงินปลายเดือน ยิ่งชำระคืนเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งเสียดอกเบี้ยต่ำลงเท่านั้นนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น

หากคุณกดเงินสดออกมา 5,000 บาท เพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินเป็นเวลา 30วัน จึงหาเงินมาชำระคืนได้แบบเต็มจำนวน

วิธีคิดอกเบี้ยก็คือ ( 5,000 x 28% x 30 )/ 365 = 115.07 บาท

ดังนั้นยอดเงินที่คุณต้องจ่ายคืนบัตรกดเงินสดก็คือ 5,115.07 บาทนั่นเอง ซึ่งหากคุณหาเงินมาชำระได้เร็วยิ่งขึ้นดอกเบี้ยตรงนี้ก็จะลดน้อยลงไปอีกด้วย

**หมายเหตุ แต่ละธนาคารจะคิดรายจ่ายจากการกดเงินสดแตกต่างกัน ควรดูที่ใบแจ้งหนี้ของตนเองเป็นหลัก

จะเห็นได้ว่าบัตรกดเงินสดนั้น เหมาะสำหรับเก็บเอาไว้ใช้เป็นเงินฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นกรณีที่ต้องใช้เงินก้อนด่วนแบบที่ไม่สามารถไปรออนุมัติสินเชื่อเงินกู้ได้ทัน และไม่มีเงินสำรองฉุกเฉินเอาไว้ เช่น ไปต่างประเทศแล้วร้านค้าหรือบริการไม่รับบัตรเครดิต ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล แล้วนำใบเสร็จไปขอเงินคืนจากบริษัทประกัน หรือค่าซ่อมแซมบ้านแบบกระทันหันก่อนที่เงินเดือนจะออก เป็นต้น

สุดท้ายนี้ แม้การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐก็จริง แต่หากคุณจำเป็นต้องใช้เงินด่วนในสถานการณ์ฉุกเฉิน การเป็นหนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายนัก สิ่งสำคัญคือหลังจากเกิดหนี้แล้วคุณต้องรีบจ่ายคืนให้ไว มีวินัยทางการเงิน และรู้จักเก็บออมเงินสำรองฉุกเฉินให้มากขึ้น เพียงแค่นี้การเป็นหนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไปแล้วล่ะ

สมัครบัตรกดเงินสด ดอกเบี้ยต่ำ | สมัครได้ทันที ผ่านเว็บไชต์ | umayplus.com
บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส เงินเดือนขั้นต่ำ 7,000฿ รับดอกเบี้ย อัตราพิเศษ O%นาน 30 วัน 1OO บาทก็กดได้ อนุมัติ รับเงินสดได้ทันที คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
http://www.umayplus.com/Promotion

อ้างอิง : https://aommoney.com, https://www.moneyguru.co.th/