รีวิวแกะกล่อง iPhone 7 สีดำ ความจุ 32GB พร้อมภาพถ่ายตัวอย่าง
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เริ่มวางขายอย่างเป็นทางการไปแล้วในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา สามารถหาซื้อได้ผ่านตัวแทนจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็น AIS, Truemove H, dtac หรือ Studio7 รวมถึงผ่านช่องทางออนไลน์ Apple Online Store ประเทศไทย
สำหรับวันนี้จะพาไปชมรีวิว พร้อมแกะกล่อง iPhone 7 รุ่นความจุ 32GB สีดำ (Black) หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่า สีดำด้าน จะสวยงามแค่ไหน มาชมกันเลย
แกะกล่อง iPhone 7
ตัวกล่อง iPhone 7 แอปเปิลได้ออกแบบใหม่อีกครั้ง โดยบนตัวกล่องจะโชว์ภาพด้านหลังตัวเครื่องตามสี ส่วนด้านข้างจะมีคำว่า iPhone เฉย ๆ ไม่ได้ระบุชื่อรุ่น เหมือนกับกล่อง iPhone รุ่นก่อน ๆ ที่จะพิมพ์ชื่อรุ่นไว้ข้างกล่อง
ด้านในกล่อง เมื่อเปิดออกมาจะเจอกับตัวเครื่อง เมื่อยกตัวเครื่องขึ้นจะเจอกับคู่มือการใช้งาน อุปกรณ์ชาร์จ หูฟัง อยู่ด้านล่างสุด เหมือนกับ iPhone รุ่นก่อน ๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- iPhone พร้อม iOS 10 เวอร์ชั่นล่าสุด
- EarPods พร้อมหัวต่อ Lightning
- สายแปลง Lightning to 3.5 mm Headphone Jack Adapter ใช้สำหรับเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. แบบเก่า
- สายชาร์จ Lightning ความยาว 1 เมตร
- USB Power Adapter ขนาด 5 วัตต์
- เอกสารคู่มือ, สติ๊กเกอร์แอปเปิล, เข็มจิ้มซิม
ตัวเครื่อง
iPhone 7 ใช้หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว เท่ากับ iPhone 6s ใช้จอภาพ Retina HD ขอบเขตสีกว้าง มีความสว่างเพิ่มขึ้น 25% คุณภาพของการแสดงผลสีแม่นยำขึ้น พร้อม 3D Touch
iPhone หน้าจอเหลือง แก้ง่าย ๆ ด้วยฟีเจอร์ Color Filters บน iOS 10
ด้านหลังเครื่องออกแบบใหม่ มีการซ่อนแถบเสาอากาศ จะเหลือแค่ด้านบนกับด้านล่าง สำหรับ iPhone 7 สีดำ หากมองแบบผ่าน ๆ แทบจะมองไม่เห็นเสาอากาศ ส่วนอื่น ๆ ก็จะมีโลโก้แอปเปิลสีดำ, คำว่า iPhone และรายละเอียดตัวเครื่องด้านล่างสุด
ด้านข้างตัวเครื่องเหมือนกับ iPhone รุ่นก่อน ๆ มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง, ปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง, ช่องใส่ซิมที่มีซีลยางกันน้ำ (ลืมถ่าย) และปุ่มปิดเปิดเสียงตัวเครื่อง
ขอบด้านบน ไม่มีอะไร เรียบ ๆ เหมือนเดิม ส่วนขอบด้านข้าง มีช่องลำโพง (ข้างเดียว) และช่องเสียบหูฟังแบบใหม่ที่ใช้พอร์ต Lightning แทนช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
ด้านหน้า (บนตัวเครื่อง) มีกล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/2.2 และ Retina Flash รวมถึงลำโพงสนทนาที่ใช้เสียงคู่กับลำโพงด้านล่างแบบสเตอริโอที่ให้กำลังเสียงมากกว่า iPhone 6s ถึง 2 เท่า
ปุ่มโฮมแบบใหม่เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยี Taptic Engine ที่จะสั่นเตือนเมื่อกดปุ่มโฮม จะแตกต่างจะปุ่มโฮมแบบเดิม ที่สามารถกดลงไปได้จริง ๆ แต่ปุ่มโฮมแบบใหม่จะไม่สามารถกดลงไปได้ ช่วยลดปัญหาปุ่มโฮมพังง่ายกว่าเดิม (วิธีการตั้งค่าปรับน้ำหนักการกดปุ่ม Home ของ iPhone 7) และ Touch ID รุ่นที่ 2 สแกนนิ้วเร็วมากกกกกก
กล้องของ iPhone 7 มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 รับแสงได้มากขึ้นอีกถึง 50% มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลสำหรับวิดีโอ สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงได้ถึงระดับ 4K และใช้แฟลช True Tone แบบ LED สี่ดวง สามารถยิงแฟลชได้สว่างกว่า iPhone 6s ถึง 50%
ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพอัพเกรดจาก iPhone 6s มาไม่เยอะเท่าไหร่นัก ลองชมภาพตัวอย่างจากกล้อง iPhone 7 กันครับ
ภาพถ่ายตัวอย่างจากกล้อง iPhone 7
ปิดท้ายรีวิวแกะกล่อง
ถ้าถามว่า iPhone 7 น่าซื้อหรือไม่ สำหรับคนที่ใช้ iPhone 6s อยู่แล้ว แนะนำว่าให้รอรุ่นต่อไปดีกว่า (เผื่อมีอะไรเด็ด ๆ กว่ารุ่นนี้) ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้ iPhone 7 ส่วนคนที่ใช้ iPhone 5s หรือ iPhone 6 หากเปลี่ยนมาใช้ iPhone 7 ถือว่าคุ้มค่า เพราะได้สเปคที่แรงขึ้น กล้องดีขึ้น เทคโนโลยีใหม่ขึ้น กันน้ำกันฝุ่น และลำโพงสเตอริโอ เป็นต้น
ราคา iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ในไทย